5 ปัญหา “น้องสาว” ที่สาวๆ ชอบปรึกษาหมอ
5 ปัญหา “น้องสาว” ที่สาวๆ ชอบปรึกษาหมอ- การมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ ไม่ได้ทำให้น้องสาวมีสีคล้ำขึ้น แต่การมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ ทำให้มีการไหลเวียนเลือดบริเวณน้องสาวมากขึ้น และช่วยให้สีของน้องสาวดูดีขึ้น
- ปัญหาความต้องการทางเพศนั้นส่งผลต่อชีวิตคู่ สาเหตุอาจเกิดจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป สภาพจิตใจ ความเครียด โรคประจำตัวที่เรื้อรัง ในปัจจุบันการฉีด PRP (O-shot) เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้
- การรักษา“น้องสาว” หลวม ไม่กระชับ ไอจามแล้วปัสสาวะเล็ด ด้วยวิธีทางธรรมชาติคือ การขมิบ ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างยุ่งยาก ทางลัดในการรักษาแทนการขมิบ คือ การใช้เทคโนโลยี TESLA Former การรักษาด้วยวิธีนี้ 30 นาที เทียบเท่าการขมิบถึง 50,000 ครั้ง จึงเป็นการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก
นอกจากใบหน้าและรูปร่างที่สวยงามแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่สาวๆ มักเป็นกังวล หากเกิดปัญหาขึ้นมาบางครั้งก็ไม่กล้าบอกใคร รวมถึงไม่กล้าที่จะไปพบหมอ เพราะความอาย ปัญหาที่ว่าก็คือปัญหาเรื่องอวัยวะเพศหญิง หรือ “น้องสาว” มาดูกันว่า 5 ปัญหาที่คุณหมอมักจะถูกถามถึงเกี่ยวกับน้องสาว มีอะไรกันบ้าง เผื่อตรงกับปัญหาของเรา จะได้เอาคำแนะนำของคุณหมอไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้
- ปัญหา “น้องสาว” ดำ คล้ำ
แต่มีบางเรื่องที่หลายคนยังเข้าใจผิด นั่นคือ การมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ ไม่ได้ทำให้น้องสาวมีสีคล้ำขึ้น ในความเป็นจริงนั้น การมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ ทำให้มีการไหลเวียนเลือดบริเวณน้องสาวมากขึ้น และช่วยให้สีของน้องสาวดูดีขึ้นอีกด้วย แต่หากมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ และมีการติดเชื้อบริเวณอวัยวะเพศจะอาจทำให้น้องสาวมีสีคล้ำได้
การแก้ปัญหาน้องสาวดำ คล้ำ
ผิวหนังบริเวณน้องสาวเป็นผิวหนังที่บอบบาง ดังนั้นการจะแก้ปัญหาน้องสาวมีสีคล้ำ ก็ต้องดูแลด้วยความอ่อนโยน อาจจะใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น เจลว่านหางจระเข้ น้ำมันมะพร้าว โยเกิร์ต น้ำผึ้ง พอกบริเวณภายนอกของน้องสาว (ห้ามพอกเข้าไปภายในเด็ดขาด) ประมาณ 15-30 นาที แล้วล้างออก จะช่วยฟื้นฟูน้องสาวได้เหมือนกับการพอกหน้า
ส่วนในทางการแพทย์มีวิธีแก้ปัญหาน้องสาวมีสีคล้ำ ด้วยการใช้เลเซอร์ Q-switched Nd:YAG laser ซึ่งเป็นเลเซอร์แบบเดียวกับที่ใช้ลดการสร้างเม็ดสีบริเวณใบหน้า ทำให้ใบหน้ากระจ่างใส แสงเลเซอร์จะถูกดูดซับด้วยเมลานินในเซลล์เม็ดสีที่เป็นปัญหา ทำให้เซลล์เม็ดสีถูกทำลายและสลายไปตามกระบวนการธรรมชาติ โดยเนื้อเยื่อรอบข้างไม่ถูกทำลายไปด้วย วิธีนี้สามารถนำมาใช้กับน้องสาวได้เช่นกัน แต่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
การรักษาด้วยเลเซอร์ ส่วนใหญ่จะเห็นผลในครั้งที่ 2 ขึ้นไป แต่จะต้องทำทั้งหมดกี่ครั้งนั้น ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมิน ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพของน้องสาวของแต่ละคน ในคนที่มีความคล้ำมาก อาจจะต้องใช้จำนวนครั้งที่มากกว่า
- ปัญหา “น้องสาว” เหี่ยว ไม่ฟู
การแก้ปัญหาน้องสาวเหี่ยว ไม่ฟู
การรักษาปัญหานี้ อาจจะใช้ PRP (Platelet-Rich Plasma) ซึ่งเป็นเกล็ดเลือดของตัวเราเอง ที่ผ่านขบวนการปั่นแยกเม็ดเลือดและเกล็ดเลือดออกจากกัน จากนั้นนำ PRP ฉีดกลับเข้าไปในบริเวณของร่างกายที่ต้องการฟื้นฟู การฉีดไปในบริเวณน้องสาว ก็จะช่วยให้ผิวฟูและกระชับขึ้น
นอกจากนี้ยังใช้ RF (Radio-Frequency) หรือคลื่นความถี่วิทยุ โดยใช้หลักการเดียวกันกับการทำ RF ที่บริเวณใบหน้า ที่จะช่วยให้ใบหน้าฟู กระตุ้นคอลลาเจน หากทำที่น้องสาวก็จะให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกัน
ในบางคนที่ไขมันหายไปมาก สามารถใช้วิธีการเติมฟิลเลอร์เข้าไปที่น้องสาว เพื่อช่วยให้ผิวบริเวณนั้น ฟู อิ่ม ได้เช่นกัน
- ปัญหา “น้องสาว” ไม่ถึงสวรรค์
การแก้ปัญหา“น้องสาว” ไม่ถึงสวรรค์
ทั้งนี้การถึงสวรรค์ยังขึ้นอยู่กับคู่ครองหรือฝ่ายชายอีกด้วย หากต้องการแก้ปัญหาอาจจะต้องหันหน้าคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและหาทางแก้ไขที่ถูกต้อง บางครั้งการเล้าโลม อาจจะช่วยได้
แต่หากพบว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากฝ่ายชาย แต่เกิดจากปัญหาของฝ่ายหญิงเอง ในทางการแพทย์อาจช่วยแก้ไขปัญหานี้โดยการฉีด PRP (Platelet-Rich Plasma) หรือเรียกว่า O-shot เป็นการฉีดเพื่อช่วยฟื้นฟูตำแหน่งที่ไวต่อการตอบสนองต่อความรู้สึกทางเพศ คือบริเวณ คริสตอริสและผนังช่องคลอดด้านบน เพื่อกระตุ้นการทำงานของคริสตอริสและ G Spot บริเวณผนังช่องคลอดด้านหน้า จะช่วยให้ผู้หญิงไวต่อการกระตุ้นและถึงสวรรค์ได้เร็วขึ้น
วิธีการฉีด PRP จะต้องแปะยาชาประมาณ 45-60 นาที ก่อนฉีดและเข็มที่ใช้ในการฉีดเป็นเข็มที่มีขนาดเล็กมาก ๆ เพื่อลดอาการเจ็บจากการฉีด
- ปัญหา “น้องสาว” แห้ง
ปัญหานี้จะทำให้ไม่พร้อมมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากไม่มีน้ำหล่อลื่น ซึ่งปกติแล้วน้ำหล่อลื่นหรือสารหล่อลื่นตามธรรมชาติในช่องคลอด ส่วนหนึ่งมาจากการตอบสนองของวงจรทางเพศ แต่ละคนจะมีปริมาณต่างกันและในแต่ละวันก็มีปริมาณไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเล้าโลมและการตอบสนองของร่างกาย
การแก้ปัญหา “น้องสาว” แห้ง
อาจจะใช้เจลหรือสารหล่อลื่น ซึ่งมีหลายประเภท เช่น แบบน้ำ แบบซิลิโคน แบบผสม หรือน้ำมัน แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ข้อดีของประเภทน้ำคือ ทำความสะอาดได้ง่ายแต่อาจจะต้องเติมบ่อย แบบซิลิโคนข้อดีคือไม่ต้องเติมบ่อย สามารถใช้ในอ่างน้ำได้ แต่ในบางคนที่ไม่อยากใช้สารหล่อลื่น ก็สามารถใช้การฉีด PRP (Platelet-Rich Plasma) O-shot ได้เช่นกัน โดยฉีดบริเวณผนังช่องคลอดด้านบนเพื่อกระตุ้นต่อมที่สร้างสารหล่อลื่น
- ปัญหา “น้องสาว” หลวม ไม่กระชับ ไอจามแล้วปัสสาวะเล็ด
ปัญหาช่องคลอดหลวม และมีปัสสาวะเล็ดขณะไอจาม ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ส่งผลต่อความมั่นใจรวมถึงปัญหาในการมีเพศสัมพันธ์ด้วย
การแก้ปัญหา“น้องสาว” หลวม ไม่กระชับ ไอจามแล้วปัสสาวะเล็ด
บริเวณช่องคลอดมีทั้งกล้ามเนื้อและเยื่อบุต่าง ๆ ในช่องคลอด การรักษาต้องแก้ปัญหาทั้ง 2 ส่วน ด้วยวิธีธรรมชาติ และวิธีทางการแพทย์
การรักษาด้วยวิธีทางธรรมชาติ เรียกว่าเป็นการทำ Kegel exercises หรือการขมิบ ต้องทำอย่างตั้งใจและทำให้ถูกต้องจึงจะได้ผล วิธีการคือ ต้องคิดว่ากำลังใช้ช่องคลอดในการหยิบลูกหินและนับเป็นรอบ โดยนับ ขยิบ-คลาย เป็น 1 รอบ ขมิบ 10 วินาที ค้างไว้ คลาย 10 วินาที ค้างไว้ ห้ามกลั้นหายใจ ทำ 30 รอบ/ครั้ง วันละ 3 ครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างยุ่งยาก
ทางลัดในการรักษาแทนการขมิบ คือ การใช้เทคโนโลยี TESLA Former ในการช่วยกระตุ้นอุ้งเชิงกราน TESLA Former เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่คลื่นพลังงานจะถูกส่งลงลึกสู่กล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่แต่ละมัดอย่างจำเพาะเจาะจง ช่วยกระตุ้นทำให้กล้ามเนื้อมีการหดและคลายตัวเป็นจังหวะแบบอัตโนมัติ สามารถทำได้ทั้งบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา การใช้ TESLA Former เป็นระยะเวลา 30 นาที เทียบเท่าการขมิบถึง 50,000 ครั้ง การรักษาจึงให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก จำนวนครั้งในการรักษาด้วยวิธีนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่ส่วนใหญ่จะให้การรักษาประมาณ 8-10 ครั้ง ต่อเนื่อง ระยะห่าง วันเว้นวัน หรือ วันเว้นสองวัน เฉลี่ยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เมื่อทำครบคอร์สแล้ว สามารถทำซ้ำได้อีก ในระยะเวลา 3-6 เดือน สนใจโปรแกรม TESLA Former คลิก
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่แพทย์นำมาใช้คือ การใช้คลื่นพลังงานวิทยุ ในการกระตุ้นเนื้อเยื่อในช่องคลอดให้กระชับและฟูขึ้น ที่เรียกว่า “VIVEVE” เป็นเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุแบบขั้วเดียว ใช้ร่วมกับความเย็นเป็นคอลลาเจนเพื่อปกป้องผิวชั้นบน ทำให้การส่งผ่านพลังงานสามารถลงไปได้ลึกมาก เห็นผลได้ชัด หลังการรักษาสามารถกลับไปทำชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หลังทำ 6 ชั่วโมง จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงหลังจากทำการรักษาแล้ว 10-14 วัน ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ จะเห็นผลลัพธ์ได้สูงสุดในช่วงประมาณ 3 เดือน และทำเพียงครั้งเดียวผลการรักษาอยู่ได้นานถึง 1 ปี สนใจโปรแกรม VIVEVE คลิก
พญ. ธนวรรณ ศิริสุข
แพทย์ผู้ชำนาญการนรีเวชวิทยาความงาม
ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์
Ref.
https://www.bumrungrad.com/th/treatments/qs-nd-yag-laser