ต้องการความช่วยเหลือ ค้นหาได้เลย

My default image

Beauty TreatmentPowerful Skin Booster

ข้อมูลการรักษา

Skin Booster คือ การเติมสารอาหารที่เหมาะสมให้ผิว เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย ความเหี่ยวย่น รอยแผลที่เกิดจากสิว เพิ่มความกระชับให้กับผิว เก็บความชุ่มชื้นและฟื้นฟูได้ในเวลาอันรวดเร็ว

Skin Booster เทรนด์ใหม่ของนวัตกรรมลดเลือนริ้วรอย
  • Skin Boosters คือทางออกสำหรับปัญหาผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอยและร่องลึก ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจและต้องการรับการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมผิวจากภายใน
  • กรดไฮยาลูโรนิกแบบฉีด สามารถแทรกซึมเข้าไปในผิวหนังชั้นลึกได้ 100% ซึ่งแตกต่างจากการทาครีม ที่การซึมผ่านขึ้นอยู่กับความหนาของผลิตภัณฑ์และความสามารถในการดูดซึมของผิวหนัง การฉีดจึงเห็นผลได้ชัดเจนกว่า และมีประสิทธิภาพมากกว่า
  • ผลลัพธ์การรักษาด้วย Skin Booster อาจอยู่ไปหลายเดือนหรือหลายปี ขึ้นอยู่กับสารที่เลือกใช้และสภาพผิวของแต่ละคน
ผิวหน้าที่เหี่ยวย่นและมีริ้วรอย เป็นปัญหาที่ไม่มีใครต้องการ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ความมั่นใจลดลง
ผิวสวย หรือ ผิวที่มีสุขภาพดี ดูได้จากองค์ประกอบ 4 อย่างคือ ความสม่ำเสมอของสีผิว (homogeneity of color) ความเรียบเนียน (smoothness) ความยืดหยุ่น (elasticity) และความชุ่มชื้นของผิว (hydration)

เมื่ออายุมากขึ้น องค์ประกอบทั้งสี่ของผิวสุขภาพดีจะลดลง คอลลาเจนที่ผิวลดลง อีลาสตินที่ผิวลดลด รวมถึงไฮยาลูโรนิคแอซิดที่ผิวลดลง ทำให้ผิวแห้งกร้าน

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเครื่องยกกระชับและเลเซอร์ ที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้ผิว นอกจากนี้ยังมีการใช้สารไฮยาลูโรนิคแอซิดที่สังเคราะห์ขึ้นมา หรือ การใช้โพลีนิวคลีโอไทด์ (Polynucleotide) ฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนัง (intradermal injection) เพื่อเพิ่มความชุ่มชึ้นให้ผิว เรียกนวัตกรรมนี้ว่า “Skin Booster” ตัวช่วยในการแก้ปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ


estrogen.png
iStock-971742036.jpg  
ทำความรู้จัก Skin Booster
Skin Booster คือ การเติมสารอาหารที่เหมาะสมให้ผิว เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย ความเหี่ยวย่น รอยแผลที่เกิดจากสิว  เพิ่มความกระชับให้กับผิว เก็บความชุ่มชื้นและฟื้นฟูได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ปัจจุบัน Skin Booster ที่ได้รับความนิยมนำมาฉีดเพื่อฟื้นฟูสภาพผิว และผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ในประเทศไทย มีดังนี้
 
สารไฮยาลูโรนิคแอซิด (hyaluronic acid)
คือไกลโคซามิโนไกลแคนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นสารที่มีคุณสมบัติดูดน้ำ อุ้มน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เมื่ออายุมากขึ้นการผลิตกรดไฮยาลูโรนิคของผิวจะลดลง ผิวจะสูญเสียความชุ่มชื้นเร็วขึ้น

ประโยชน์ของไฮยาลูโรนิคแอซิด คือ มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น ไร้ริ้วรอย และเรียบเนียน บรรเทาอาการอักเสบและระคายเคืองของผิว รอยแผลเป็นจากสิว มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ดังนั้นจึงช่วยป้องกันความชราของผิว และมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งทำให้ผิวมีโครงสร้างที่ยืดหยุ่น

การฉีดไฮยาลูโรนิคแอซิด ที่เหนือกว่าการใช้ครีมบำรุงผิว คือ กรดไฮยาลูโรนิกแบบฉีด สามารถแทรกซึมเข้าไปในผิวหนังชั้นลึกได้ 100% ซึ่งแตกต่างจากการทาครีม ที่การซึมผ่านขึ้นอยู่กับความหนาของผลิตภัณฑ์และความสามารถในการดูดซึมของผิวหนัง การฉีดจึงเห็นผลได้ชัดเจนกว่า มีประสิทธิภาพและความสามารถในการให้ความชุ่มชื้น เติมเต็ม ปรับปรุงคุณภาพผิว ที่มากกว่า

ผลิตภัณฑ์กรดไฮยาลูโรนิครุ่นใหม่ๆ ที่หลังเข้ารับการรักษาครั้งแรก สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นผิวได้นานถึง 6-9 เดือน นอกจากนี้ยังทำให้รูขุมขนเรียบเนียนขึ้น

*ระยะเวลาของผลลัพธ์ขึ้นกับปริมาณผลิตภัณฑ์ที่ฉีด และชนิดผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้
 
สารโพลีนิวคลีโอไทด์ Polynucleotide (PN)
โพลีนิวคลีโอไทด์หรือที่เรียกว่า PN เป็นส่วนประกอบของ DNA ที่สกัดมาจากปลาแซลมอน (wild salmon) เป็นวิธีการรักษาแบบฉีด ที่ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลักการทำงานของโพลีนิวคลีโอไทด์คือ การดึงดูดโมเลกุลของน้ำ กักเก็บอนุมูลอิสระเพื่อส่งเสริมการสร้างไฟโบรบลาสต์ซึ่งผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ลดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยลดรอยแดง บวม และความเสียหายของผิว ควบคุมการสร้างเม็ดสีผิว กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ในระดับเซลล์ ช่วยในเรื่องแผลเป็น รอยแผลจากสิว รอยดำ ฝ้า โรคผิวหนังอักเสบโรซาเซีย

ประสิทธิภาพของโพลีนิวคลีโอไทด์ ขึ้นอยู่กับระดับความเสื่อมของผิวและความสามารถในการสร้างเนื้อเยื่อที่มีคุณภาพเมื่อได้รับการกระตุ้น ส่วนใหญ่จะสังเกตเห็นความแตกต่างได้หลังจากผ่านไป 2-4 สัปดาห์ แนะนำทำการรักษาทุก 1 เดือน ทั้งหมด 3 ครั้ง ผิวจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่เหมาะสมประมาณ 3 เดือนหลังจากการฉีด

โพลีนิวคลีโอไทด์ สามารถใช้รักษาได้ทั้งใบหน้า คอ เนินอก บริเวณดวงตาที่บอบบาง หลังมือ หน้าท้อง ต้นขา เข่า แขน รอยแตกลายทั่วร่างกาย
 
ความแตกต่างของสารไฮยาลูโรนิคแอซิด และโพลีนิวคลีโอไทด์แม้ว่าการรักษาทั้งสองอย่างจะมีลักษณะที่ค่อนข้างคล้ายกัน แต่ก็มีหน้าที่และการทำงานที่แตกต่างกัน การใช้ไฮยาลูโรนิกแอซิดเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวในชั้นตื้นๆ ทำให้ผิวดูเรียบเนียน โดยการทำให้ผิวอวบอิ่มขึ้น ซึ่งนำไปสู่การลดเลือนของริ้วรอย ในทางกลับกัน โพลีนิวคลีโอไทด์ ใช้วิธีการต่อต้านริ้วรอย ซ่อมแซมและสมานเซลล์ผิวที่เสียหายและย้อนสัญญาณแห่งวัยเพื่อให้ผิวอ่อนเยาว์และสุขภาพดี

ดังนั้น การฟื้นฟูสภาพผิวร่วมกันทั้งสองวิธี สามารถต่อต้านริ้วรอยและการฟื้นฟูผิวได้ดียิ่งขึ้น
 
Skin Booster เหมาะกับใคร
ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอยและร่องลึก มีแผลเป็น รวมถึงปัญหาผิวอื่นๆ และต้องการรับการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมผิวจากภายใน ต้องการย้อนวัยและคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว

เมื่อคุณภาพผิวแย่ลง สัญญาณที่มองเห็นได้อาจเป็นผิวที่ไม่สม่ำเสมอ หยาบ แห้ง ไม่เรียบเนียน สูญเสียความสดใสของผิวไป สีผิวหมองคล้ำ สัญญาณที่มองเห็นได้อีกอย่างหนึ่งของคุณภาพผิวที่เสื่อมโทรมก็คือ การสูญเสียความกระชับ Skin Boosters คือทางออกสำหรับปัญหาริ้วรอยแห่งวัยและต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ
ผลลัพธ์ของการฉีด Skin Boosters อาจอยู่ไปอีกหลายเดือนหรือหลายปี ขึ้นอยู่กับสารที่เลือกใช้และสภาพผิวของแต่ละคน

คำถามที่พบบ่อย
Q: ผลข้างเคียงที่พบได้หลังฉีด Skin Booster มีอะไรบ้าง?
A: บวม แดง ช้ำ บางคนพบจุดฟกช้ำเล็กน้อยหลังฉีด ซึ่งพบได้บ่อยที่สุดบริเวณมุมตาเนื่องจากผิวหนังบางและมีเส้นเลือดเล็กๆ จำนวนมาก รอยช้ำเล็กๆ มักจะหายไปภายใน 1 – 2 สัปดาห์

Q: สามารถทำหัตถการอื่นร่วมกับ Skin Booster ได้หรือไม่?
A: สามารถทำการยกกระชับหรือเลเซอร์ก่อน แล้วจึงฉีดสารเพิ่มความชุ่มชื้นผิว หรือ Skin Booster แต่หากได้รับการฉีดสารเพิ่มความชุ่มชื้นผิวมาแล้ว แนะนำรออย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ค่อยทำการยกกระชับหรือเลเซอร์

Q: Skin Boosters กับ Dermal Fillers ต่างกันอย่างไร?
A: ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Skin Boosters กับ Dermal Fillers คืออาหารเสริมผิวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เปล่งประกาย และฟื้นฟูอีลาสติน ในขณะที่สารเติมเต็มผิวหนังช่วยคืนความอ่อนเยาว์ การรักษาทั้งสองวิธีใช้ส่วนผสมหลักของกรดไฮยาลูโรนิคและถูกฉีดเข้าใต้ผิวหนัง อาหารเสริมผิวสามารถคงอยู่ได้ตั้งแต่ 9 ถึง 12 เดือน ในขณะที่สารเติมเต็มผิวหนังจะอยู่ได้นาน 6 เดือน และจะต้องทำการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
 
 
แพทย์หญิงชนาทิพย์ ญาณอุบล
ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์

“ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์" เป็นคลินิกชั้นนำในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งให้บริการดูแลสุขภาพและความงามทุกมิติ บนพื้นฐานของเวชศาสตร์ชะลอวัย เพื่อการมีอายุยืนยาว

📍สอบถามหรือทำนัดหมายเพิ่มเติม
Add LINE: @vitallife_wellness or Click 
📞Call: 02-066-8899

 

Treatment doctors

พญ.ชนาทิพย์ ญาณอุบล
Dermatology, Dermatosurgery, Laser and Aesthetics

เวชศาสตร์ป้องกัน
เวชศาสตร์วัยยุวัฒน์
เลเซอร์ และการรักษาเกี่ยวกับความงาม

นัดหมายเพื่อเข้ารับบริการ
LASTEST BLOG POST

การวัดอายุทางชีวภาพ

เริ่มไขความลับเพื่อชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดีขึ้นด้วยโปรแกรม Blood Age

อ่านเพิ่มเติม
My default image

Feel Younger . Look Better . Live Longer

Book an appointment

ไม่พลาดข้อมูลข่าวสาร!