
ไขมันเชิงลึกคืออะไร? ทำไมถึงส่งผลต่อสุขภาพหัวใจของคุณ
เมื่อตรวจสุขภาพ “ไขมัน” ในเลือด เราจะได้เห็นค่าของ HDL, LDL หรือที่เราเรียกกันมาว่าเป็นไขมันดี/เลว และใช้มันเป็นปัจจัยหนึ่งที่บอกความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดต่างๆ มาตลอดสิบปี เมื่อความรู้ในทางการแพทย์ก้าวหน้ามากขึ้น เราเริ่มมีความเข้าใจใหม่หลายๆ ประการ เช่น ไม่ใช่ทุก LDL เป็น “ไขมันเลว” และทำไมถึงมีคนที่เป็นโรคหัวใจหรือหลอดเลือดสมองให้เราได้ยินข่าวบ่อยๆ โดยที่ตรวจไขมัน “ปรกติ” มาตลอด
ไขมันเชิงลึก หรือ Advanced Lipid Profiles คืออะไร?
ไขมันเชิงลึก เป็นการวิเคราะห์รายละเอียดในอนุภาคของ LDL และ HDL รวมถึงตัวสร้างโรคอีกตัวหนึ่งคือ Lipoprotein (a) และค่าการอักเสบ
-
Apolipoprotein B (ApoB): เป็นกลุ่มโปรตีนและไขมันเชิงซ้อนที่พบใน Low-density lipoprotein (LDL) เป็นหลัก และพบได้ใน IDL และ VLDL (intermediate และ very low density ตามลำดับ) โดย LDL 1 อนุภาค มี ApoB 1 สาย เสมอ โดยไม่ขึ้นกับขนาดของ LDL เราพบว่า เมื่อระดับ Apo B สูง จะทำนายความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ดีกว่า เทียบกับการเจาะเลือดที่ดูเฉพาะ LDL หรือระดับคอเลสเตอรอล แม้จะมี LDL ในระดับปรกติก็ตาม ในทางตรงกันข้าม ก็สามารถ
-
Small dense LDL: เป็นอนุภาค LDL ขนาดเล็กและมีความหนาแน่นสูง ซึ่งมีข้อมูลว่าสะสมและกระตุ้นการอักเสบของหลอดเลือดมากกว่า LDL ขนาดใหญ่ small dense LDL นี้ มีความสัมพันธ์กับระดับ LDL แต่เมื่อมีไขมันที่สูง หรือมีไตรกลีเซอไรด์ที่ค่อนสูงเช่นสูงกว่า 80 mg/dL ขึ้นไป ค่านี้จะสูงเกินสัดส่วนของ LDL (ค่าปรกติโดยทั่วไปคือ 150 mg/dL ดังนั้น เราสามารถผลตรวจสุขภาพ “ปรกติ” ได้ ทั้งๆที่มี small dense LDL สูง)
-
Apolipoprotein A1 (ApoA1): เป็นสายหลักที่พบใน High-density lipoprotein (HDL) โดยมีความสัมพันธ์เป็นหนึ่งต่อหนึ่งเสมอต่อโมเลกุลของ HDL การได้เห็นอัตราส่วนระหว่าง ApoB และ ApoA1 นั้น จึงเป็นอีกข้อมูลที่ช่วยเสริมการประเมินความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดที่มีหลักฐานรองรับ และแม่นยำกว่าการใช้ อัตราส่วนของคอเลสเตอรอล หรือ non-HDL กับ HDL
-
Lipoprotein(a): หรือ Lp(a) เป็นอนุภาคที่มีโครงสร้างคล้ายกับ LDL แต่มีส่วนประกอบของโปรตีนที่แตกต่างกัน มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองแม้กระทั่งในกลุ่มที่สุขภาพด้านอื่นๆ แข็งแรงและ LDL ปรกติ สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด ตั้งแต่อายุน้อย ระดับของ Lp(a) นี้ ถูกควบคุมจจากพันธุกรรมเกือบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงสามารถพบได้มากกว่าหนึ่งคนในครอบครัวเดียวกัน ปัจจุบันเริ่มมีคำแนะนำว่า ควรได้รับการตรวจ Lp(a) สักครั้งเมื่อเป็นผู้ใหญ่ ถ้าปรกติไม่มีความจำเป็นต้องตรวจซ้ำอีก เพื่อที่จะได้ทราบความเสี่ยงที่หลงเหลือหลังจากการควบคุมน้ำตาล ไขมัน น้ำหนักตัว (residual risk) ให้ครบถ้วน
-
High Sensivity C – Reactive Protein (hs-CRP): ค่าการอักเสบนี้เป็นโปรตีนตัวหนึ่งที่ถูกพบว่ามีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคทางหลอดเลือดมาไม่ต่ำกว่าสองทศวรรษ และในระยะหลังจึงได้มีการจัดให้เป็นตัวทำนายความเสี่ยงโดยไม่ขึ้นกับระดับของการวัดอื่นๆ หรือ independent risk factor ตามกระบวนการการเกิดโรคที่ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นว่าเกิดจากการอักเสบในระดับต่ำ เป็นระยะเวลานาน และถูกใช้เป็นตัวหนึ่งที่วัดกระบวนการการแก่ชราที่เรียกว่า inflammaging นั่นเอง
ในปัจจุบัน ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ มีการตรวจและวินิจฉัยความเสี่ยงโรคจากไขมันเชิงลึก รวมถึงการตรวจทางพันธุกรรม (genomics) วิเคราะห์โปรตีนในเลือด (proteomics) เพื่อการคำนวณความเสี่ยงเฉพาะบุคคล ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับการประเมินมาตรฐาน เช่น การตรวจวัดแคลเซียมที่หลอดเลือดหัวใจหรือ coronary calcium score หรือการทำอัลตราซาวด์หลอดเลือดคอ (carotid intima media thickness) เป็นต้น
คลิกที่นี่ เพื่อปรึกษาแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพกับเราระยะยาว 1 ปี ด้วยโปรแกรม Vital ที่เป็นการดูแลสุขภาพเชิงลึก พร้อมการใช้ AI อัจฉริยะมาช่วยวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพ ให้คุณสามารถตรวจพบปัญหาสุขภาพได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นก่อนที่จะเกิดโรค โดยตรวจวัดค่าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการเกิดโรคปีละ 2 ครั้ง อีกทั้งยังมีระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์ติดตามค่าทางสุขภาพกับ Bumrungrad Application เพื่อให้คุณมีความสุขในการใช้ชีวิตแบบเหนือระดับ ที่ไวทัลไลฟ์